วันศุกร์ที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2554

วิจารณ์หนังเรื่อง2012



2009_two_thousand_twelve_00

2 ชั่วโมงครึ่ง กับเรื่องราวความหายนะของโลกใบนี้ มันช่างเป็น 2 ชั่วโมงครึ่งที่ไม่อยากหลับ มันช่างเป็น 2 ชั่วโมงครึ่งที่ตื่นเต้นและครบอรรถรสสุดๆ และช่างเป็น2 ชั่วโมงครึ่งที่ต้องปรบมือให้กับ “2012 วันสิ้นโลก” ภาพยนตร์แอ็คชั่นไซไฟ (Sci-fi – Action) ที่ลงตัวที่สุดในรอบ 10 ปี

ใครที่เคยประทับใจกับ “The Day After Tomorrow:วิกฤติวันสิ้นโลก” และ “Titanic:ไททานิค” ก็ควรไปดูภาพยนตร์เรื่อง “2012 วันสิ้นโลก” เพราะมันคือความลงตัวประหนึ่งกับว่าเอาความสนุกของหนังทั้ง 2 เรื่องมารวมกันเป็น 2012 วันสิ้นโลก

ก่อนที่จะไปพูดถึงพล๊อตเรื่อง ตัวละคร แสง สี เสียง การลำดับภาพ ขอเล่าเรื่องคร่าวๆ ของหนังเรื่องนี้ ให้ฟังก่อน…

4

2012 วันสิ้นโลก เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับการทำนายทายทักถึงภัยพิบัติของโลก หรือที่เราจะเคยได้ยินกันว่าเป็น วันโลกแตกหรือวันสิ้นโลกนั้นเอง หลายศตวรรษมาแล้ว ชาวเผ่ามายันมีความเชื่อและคำทำนายไว้ว่า วันที่โลก จะดับสูญคือวันที่ 21 ธันวาคม 2012 ซึ่งตามวัน และปี พ.ศ. นี้ได้ปรากฏอยู่เป็นวันสุดท้าย ในปฏิทิน ของชาวเผ่ามายัน

แจ็คสัน เคอร์ติส (จอห์น คูแซค) และลูกอีกสองคนอยู่ระหว่างการเดินทางไปเยลโล่สโตน จู่ๆพวกเขาก็ได้ไปพบกับเรื่องราวที่ไม่คาดคิดมาก่อน เมื่อเขาได้ทราบความลับที่ทางองค์กรของอเมริกากำลังค้นคว้ามาตลอด กับเหตุการณ์วันสิ้นโลก แจ็คสัน ทราบถึงภัยอันตรายที่กำลังจะมาถึง เขาต้องปกป้องครอบครัวของเขาจากแผ่นดินไหว ลาวาระเบิด สึนามิ และภัยธรรมชาติอื่นๆ เหมือนที่เผ่ามายันโบราณเคยวาดถึงวันแห่งอโพคาลิพส์ไว้ เขาพยายามติดต่อกับภรรยา ที่แยกทางไปมีสามีใหม่ เพื่อที่จะหาทางหนี้ออกจากคลื่นยักษ์ที่กำลัง จะพังโลก ทั้งใบ ไปต่อหน้าต่อตา พวกเขา การหนีี้ออกจากเมืองที่เขาอยู่ เพื่อที่จะไปขึ้นเรือลำยักษ์ที่ทางการได้จัดเตรียมไว้ในประเทศจีน เพื่อที่จะไปยังโลกใหม่ในการสร้างเผ่าพันธุ์ใหม่ แต่การเดินทางหนีออกจากความตายของพวกเขา ไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด เพราะมันคือความตื่นเต้น เร้าใจ ความน่ากลัว ความสูญเสีย และความตายที่กำลัง จะมาเยือนคนทั้งโลกกำลังจะตาย แล้ว แจ็คสัน จะพาครอบครัวของเขา หนีออกจากภัยพิบัติครั้งนี้ได้หรือไม่? ต้องไปชมที่โรงภาพยนตร์กันเอง รับรองว่าคุ้มค่าอย่างแน่นอน

พล๊อตเรื่องเป็นเรื่องราวที่น่าสนใจมาก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องภาวะโลกร้อน เหตุการณ์ทางธรรมชาติที่ผิดปกติ ดิน ฟ้า อากาศ ความเป็นอยู่ของมนุษย์ ล้วนแต่เป็นเรื่องราวที่อยู่ใกล้ตัวมนุษย์ทุกคน ซึ่ง “โรแลนด์ เอ็มเมอริช” ก็ถ่ายทอดเรื่องราวได้ดีสมน้ำสมเนื้อ กับฉากหายนะวินาศสันตะโร ได้สมจริงราวกับว่ามันจะเกิดขึ้นจริง ในอีกไม่นาน

นักแสดงทุกตัวได้วางความเหมาะสมไว้อย่างลงตัว ซึ่งหนังเรื่องนี้นอกจากความรักของสามีภรรยา ที่ถ่ายทอดอารมณ์ได้ซึ่งกินใจ ยังมีความรักของพ่อลูก เพื่อนร่วมโลก และความเสียสละ ที่ตัวละครทุกตัวได้เล่าเรื่องราวได้ดีมาก เรียกน้ำตาคนดูได้เต็มๆ

ภาพ แสง สี เสียง ก็สมกับเป็นหนังฟอร์มยักษ์ที่น่าตื่นตาตื่นใจ การลำดับภาพก็ไม่ซับซ่อนจนเกินไปเป็น เรื่องราวที่เข้าใจง่าย โดยรวมแล้วภาพยนตร์เรื่องนี้มีทั้งสนุกและความเป็นดาม่า ครบรสที่เรียกน้ำตา คนดูไปได้ไม่น้อย




คำวิจารณ์ของตัวผม
  ผมคิดว่าหนังเรื่องนี้เป็นหนังที่จินตนาการจากการเชื่่อว่าโลกของเราจะแตกในปี คศ.2012 ซึ่งเกิดภัยพิบัติจากธรรมชาติอันเนื่องมาจากฝีมือมนุษย์ทำให้ผู้คนในโลกล้มตายมากมาย  จากภาพยนตร์เรื่อง2012วันสิ้นโลกทำให้เราเห็นความสำคัญในการลดโลกร้อน  การไม่ตัดไม้ทำลายป่าซึ่งจะทำให้เกิดโลกเกิดความสมดุลช่วยลดภัยพิบัติที่จะเกิดขึ้นกับโลกอย่างเช่น สึนามิ เป็นต้น

1 ความคิดเห็น: